เรื่องนายมโนตอนออกจากวัดพระธรรมกายเป็นที่หายไปจากสารบบ คือ ทำไมถึงออกจากวัดพระธรรมกาย ในกลางพรรษาปี 2537พระมโน (ในขณะนั้น) กำลังทำเรื่องนายรูดี้ที่ฆ่าพระในอเมริกา เรี่ยรายจากโยมหลายสิบล้าน เรื่องนี้มีคนพูดมากแล้ว ขอยกไว้ แต่จุดที่ออกจากวัดไม่เคยมีใครพูดถึงคือ พระมโน มาขอหลวงพ่อรองเจ้าอาวาสไปประชุมที่อียิปต์ ในรายการที่ไม่เกี่ยวอะไรกับการเผยแผ่พุทธศาสนาจากกำหนดการจะต้องขาดพรรษา.
อย่างที่ทราบกันพระมโนตั้งแต่วันบวช ก็ร่อนเร่ไปอยู่ต่างประเทศ ไม่คุ้นกับการทำตามวินัย จำพรรษา ซึ่งครั้งนี้จึงเป็นครั้งแรกที่พระมโนจำพรรษาที่วัดพระธรรมกาย หลังจากบวชแล้ว 13 ปี หลวงพ่อรองเจ้าอาวาสไม่อนุญาตเพราะไม่เอื้อพระวินัย ด้วยความดื้อรั้นเอาแต่ใจก็สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าให้ครูบาอาจารย์ จะไปให้ได้ ที่สุดพระมโนได้ยื่นคำขาดว่า "ถ้าหลวงพ่อไม่ให้ไปผมก็จะขอลาออกจากวัด ?"
หลวงพ่อรองเจ้าอาวาสจึงให้กลับไปคิดให้ดีหนึ่งคืน .
พระมโนคงคิดด้วยความคิดเอาตนเป็นใหญ่ มองไม่เห็นสิ่งที่หลวงพ่อเตือนให้เอื้อเฟื้อกับพระวินัยตั้งใจจะแหกพรรษาไปเช้ารุ่งขึ้นจึงเอาจดหมายลาออกมายื่นหลวงพ่อรองเจ้าอาวาส
หลวงพ่อรองเจ้าอาวาสได้รับหน้าที่ปกครองพระสงฆ์ในปีนั้นมีประมาณ 700 รูป มีกฏระเบียบสำหรับคนหมู่ใหญ่ จึงสุดที่จะทัดทาน หลวงพ่อรองเจ้าอาวาสจึงจำใจรับการลาออกนั้น
พระมโนเมื่อออกไปแล้ว เมื่อต้องอยู่เอง กินเอง ไปได้ไม่นาน ไม่ถึงปลายปี ไปขอให้เจ้าภาพใหญ่ระดับคุณหญิงท่านหนึ่งมาขอให้หลวงพ่อรับกลับ
เป็นเรื่องที่หลวงพ่อทำได้ลำบากเพราะจะเสียการปกครอง เห็นแก่สงฆ์หมู่ใหญ่ ที่จะไม่ให้เอาแต่ใจเป็นเยี่ยงอย่าง จึงปฏิเสธ
พระมโนจึงสิ้นสุดความเป็นพระวัดพระธรรมกายด้วยประการฉะนี้
อย่ามาตีเนียนว่าเห็นความไม่ชอบมาพากลของหลวงพ่อจึงทำตัวเป็นฮีโร่ ออกมาต่อต้าน แม้เนรคุณ ฟังแล้วเสียดายอาหารที่ทานเข้าไป.
พอเถอะนายมโน คุณจะเคียดแค้น อาฆาต จองเวร หลวงพ่อไปทำไม พยายามอย่างยิ่งที่จะได้คำว่า "ศิษย์เนรคุณ คิดล้างครู" ทำไม
cr.ศิษย์วัดใหญ่ ภายในสุดๆ กว่า 30 ปี